วันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ขับรถใน Hokkaido

ถ้าเป็นเมืองใหญ่อย่างเช่นโตเกียว(Tokyo) โอซาก้า(Osaka) นาโกย่า(Nagoya) ซัปโปโร(Supporo)  มีระบบการขนส่งสาธารณะที่คลอบคลุมที่เที่ยว ใช่ขนส่งสาธารณะสะดวกกว่าการเช่ารถขับเอง

การเที่ยว Hokkaido ที่ขนส่งมวลชน มันไม่คลอบคลุม เช่นเที่ยวดูดอกไม้ใน Furano  มีตั้งหลายจุดที่สวย แต่รถไฟไปถึง 2-3 ที่  ทำให้การเช่ารถขับเที่ยวนั้นน่าสนใจและอาจจะดูเป็นทางเลือกที่ดีกว่า มีอิสระในการเดินทางมากกว่า ไม่ต้องเสียเวลารอรถ นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายการเดินทางอาจจะประหยัดกว่า 



การเช่ารถ
เอารถเจ้าไหนดีละ..
ได้ข้อมูลจากสมาชิก ใน facebook ว่าเจอบริษัทจองรถที่ไม่ดี.. คนบอกว่าเช่ารถเอาของที่ญี่ปุ่นโดยตรงดีกว่า ไม่ตุกติก และมีคนบอกว่า Nippon rent a car ก็ดีนะ ยังมีอื่นๆอีกเช่น Toyota Rentacar, Nippon Rentacar, Nissan Rentacar และ Mazda Rentacar  เวลาเลือกก็ดูราคา รถ เงื่อนไขการประกัน และเงื่อนไขอื่นๆ อย่างละเอียด
อ้อ อย่าลืมดูพื้นที่ที่เก็บกระเป๋าด้วยนะ 


?  ETC และ Hokkaido express pass คืออะไร จะคุ้มหรือไม่.... หาข้อมูลต่อ...
-          ETC คือ ระบบ ETC เหมือน Easy Pass  ของเมืองไทย เข้าออกทางด่วนได้อัตโนมัติโดยไม่ต้องหยุดจ่ายเงินสดที่ด่าน ..เพื่อความสะดวกสบาย….หลังจากเที่ยวเสร็จ เมื่อคืนบัตรคืนรถ จึงจะมาจ่ายค่าผ่านทาง แต่ถ้ามีHEP ก็ไม่ต้องจ่ายเพราะ
-          Hokkaido express pass (HEP)คือ บัตรทางด่วนเหมาจ่าย สำหรับคนต่างชาติที่ถือพาสปอร์ตต่างชาติ จึงมีสิทธิใช้ ก็เหมือน pass ต่างๆ ที่คนต่างชาติได้สิทธิลดราคา เพราะถ้าจ่ายจริงแพงกว่านี้แน่.. ลองมาดูนะว่าที่ใช้คุ้มไหม...
New chitose airport- Furano    1,880
Asahikawa – Iwamizawa        2,610
Iwamizawa-Noboribetsu        2,590
Noboribetsu- toya        1,420
toya-hakodate        3,330
hakodate-niseko        2,670
otaru-sapporo kita        1,200
รวมจ่ายค่าทางด่วนถ้าไม่ใช้ HEP    15,700 (ประหยัดได้ 15,700-7,700= 8,000 yen(2,208฿)
  New chitose airport- Hakodate
  Hakodate-Sapporo             


ลองเข้าไปหาข้อมูล เพิ่มเติม
http://sapporo-renta.com/english/traffic.html (มีตารางค่า toll fee)
http://th.visit-hokkaido.jp/library/brochures/pdf/driving_en.pdf





สรุปค่าใช้จ่ายการขับรถเที่ยว 6 วัน
เช่าจากเมืองไทยทาง website ของ nippon rent a car 
รับรถ 7 pm. วันที่23.. 58 ที่ สนามบิน , คืนรถ 7 pm. วันที่ 29 ในเมือง sapporo
เช่ารถขับ 6 วันเต็ม (โดยทั่วไปค่าเช่ารถจะคิดราคาต่อ 24 ชั่วโมง)
ได้รถ toyato เครื่อง 1,300 สำหรับ คน 3คน กระเป๋าใหญ่วางได้ 2ใบ
ค่าเช่ารถ 56,763 ¥  -ส่วนลด 2,854¥ (ตอนที่ไปมีโปร สมัครสมาชิกหน้า web มีส่วนลด 5%)
ค่า hokkaido express pass 7 วัน 7,700¥
ค่าบัตร ETC  324 ¥
รวมค่าเช่ารถ 61,933¥
ขับเที่ยวระยะทางทั้งหมด 1,359 km
เติมน้ำมัน 93.78 L เป็นเงิน 13,614¥
(เติมปัมเชลที่biei ราคา 137.04¥/L
ปั้ม enos ที่hakodate 145, niseko 142,
ปั้มของ nippon rent a car ที่ sapporo147 )
อัตราการใช้น้ำมัน 14.491 km/L
ราคา 10.02¥/ km.(2.76 บาท/ km. (.276 บาท = 1¥)
เที่ยว furano , biei ,iwamizawa, noboribetsu, toya, hakodate, onuma,niseko, วนแหลมshakotan  กลับ sapporo
รวมค่าใช้รถ สำหรับ 3คน 75,547¥
เฉลี่ยคนละ 25,182.33¥(6,950.32 บาท) การเที่ยว 6 วัน
(ถ้าใช้ Hokkaido rail pass  5 วัน คนละ 22,000Y+ ค่า taxi)
สรุปเช่ารถน่าจะดีกว่า...เป็นข้อมูลสำหรับใครอยากจะขับรถเที่ยวที่ญี่ปุ่น



การขับรถใน Hokkaido
ข้อปฏิบัติตาม กฎจราจรของประเทศญี่ปุ่นมีตามนี้
1 ขับรถเลนซ้ายเหมือนประเทศไทย ดังนั้นไม่ต้องสับสนเรื่องการเลี้ยว การเปลี่ยนเลน แต่ อาจจะงง เรื่องสัญญาณไฟเขียวให้เลี้ยวซ้ายแต่อยู่ขวามือของไฟแดงเหลืองเขียว ดังนั้นต้องดูให้ดีว่าเขียวนั้นให้เลี้ยวซ้ายหรือขวา
2. เมื่อสัญญาณไฟจราจรเป็นสีแดง กรณีคุณกำลังรอเลี้ยวซ้ายจะต้องหยุดรถเพื่อรอสัญญาณไฟเขียวก่อนจึงจะขับต่อไปได้ (ที่ญี่ปุ่นไม่มีเลี้ยวซ้ายผ่านตลอดนะจ๊ะ)
3. มีป้ายสามเหลี่ยมหัวทิ่ม ที่ให้หยุดรถตรงทางแยก  ต้องหยุดดูซ้ายขวาก่อนไปนะ ไม่เช่นนั้นอย่าเจอโปลิสนะจ๊ะ

4. ทางด่วน จำกัดความเร็วที่ 80-100 km/hr ในเมือง 40 km/hr ตามกรอกซอกซอย 30 km/hr   อื่นๆ ทั่วไป  50-60 km/hr  (ตอนแรกเฒ่าคิ้วทูร ขับทีแรก ตามกฎเปี๊ยบเลย ทางด่วนผ่านอุโมงค์ บอก 80 ก็ขับ 80 พอพ้นออกมา ถนนเป็น 2 เลน สิบล้อแซงเลยค้า  ต่อมาสังเกตว่าคนญี่ปุ่น บางทีก็ขับเร็วเกิน speed limit โดยเฉพาะทางด่วน นี่วิ่งกันฉิวๆ เลย ประมาณ 100-120  ก็เลยขับตามเลือกเอารถที่คนญี่ปุ่นขับ.... แล้วจะรูได้ไงว่าคนญี่ปุ่นขับ???....
ก็ขับตามรถบรรทุก หรือรถโดยสาร ต้องเป็นคนญี่ปุ่นขับแน่นนอน เพราะว่าถ้าขบตามรถเก๋ง อาจเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยหรือคนจีนก็ได้.. แต่ก็อย่าขับรถเร็วเกิน แล้วไม่ปฏิบัติตามกฎกันละ
5.ทุกที่นั่ง รวมทั้งผู้โดยสารที่นั่งแถวหลังจะต้องคาดเข็มขัดนิรภัย และกรณีที่มีเด็กจะต้องติดตั้งที่นั่งสำหรับเด็กโดยเฉพาะด้วย (Child Seat)
6. งดใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่
7. ห้ามขับขี่หากดื่มเครื่องดื่มมึนเมา
8. จอดรถในสถานที่ที่อนุญาตให้จอดเท่านั้น 
โดยรวม ขบรถไม่ยาก เพรากฎจราจรเขาเข้ม ผู้ฝ่าฝืนจะถูกดำเนินการตามกฎหมายหรือถูกปรับเงินที่แพงหูฉี่   ไม่เหมือนบ้านเรา มีทั้งบัตรเบ่ง แต่ขับรถแย่มาก  พวกคนเมา รวมถึงบรรดามอเตอไซด์ทั้งหลาย...เป็นตัวทำให้เกิดอุบัติเหตุ....

เครื่องมือนำทางไปจุดหมาย
1.ใช้ GPSติดมากับรถญี่ปุ่น ก่อนรับรถอย่าลืมบอกให้เขาตั้งเป็นภาษาอังกฤษนะ
2. เมื่อ Start รถ เสร็จแล้ว  ก่อนออกรถจะต้องต้องตั้ง GPS ในการเป็น guide นำทางที่อยู่ใน
3. GPS ไม่ได้ใช้การระบุพิกัด  coordinate  แบบที่ชาวโลกทั่วไปใช้ เช่นในกูเกิล Lat/Long  แต่ใช้การระบุที่หมายเป็น Mapcode ที่เป็นตัวเลข 6-10  หลัก แล้วตัวเลข mapcode อามาจากไหน ก็เอามาจากคู่มือที่ร้านเช้ารถมา แต่บางสถานที่เช่นร้านอาหารไม่มี mapcode ก็ใช้เบอร์โทรศัพท์ คีย์เข้าไปแทนก็ได้ค่ะ
4. ถ้าหากเราไปผิดทาง มันจะ re-routing ให้อัตโนมัติด้วยความรวดเร็ว ถึงแม้จะอยู่ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพร ที่ ไม่มีสัญญาณinternet ทำให้ rocket wifi ใช้งานไม่ได้ แต่ GPS ทำงานได้
5. บางครั้งมาถึงตามที่บอกแล้วมันไม่ใช้จุดหมาย ก็ดูที่หน้าจอ แล้ว zoom out ดูแผนที่รวมก่อน หรือ zoom in
หรือจุดหมายที่ไม่มีทั้ง mapcode/เบอร์โทรศัพท์  ก็ดูที่หน้าจอ แล้วกดเลือกชื่อสถานที่ ที่มันใกล้จุดหมายเราในแผนที่ ให้มันนำทางเราไปก่อน เมือไปถึงที่นั้นก็ zoom out / zoom in หาทางต่อไป
แต่ต้องอย่าลืมว่าเพราะระบบความปลอดภัย GPS จะไม่สามารถคีย์ mapcodeหรือเบอร์โทรขณะรถวิ่ง จะต้องรถจอดสนิทก่อนเท่านั้นค่ะ
6. mapcode หาจาก คู่มือแนะนำที่เที่ยวที่บริษัทเช่ารถให้มา และในคู่มือนี้ก็จะมีคูปองลดราคาเข้าสถานที่ด้วยนะ
หรือหาจาก Website เช่น
http://www.backpackbuddy.net/tag/hokkaido-mapcode/

7. ใช้ google map นำทางในกรณีที่จุดหมายไม่มี mapcodeหรือเบอร์โทร  ตั้งที่เครื่องโทรศัพท์ไว้เลย เพราะไม่รู้ว่าต่อไปจะมีสัญญาณinternet หรือเปล่า

Clip review  การตั้งGPS ของรถยนต์ และงงกับไฟจราจร 

เติมน้ำมัน
1. บางปั้มมีแบบเติมเอง หรือให้พนักงานเติมให้
2 อย่าจำสีที่หัวจ่าย ให้ดูชื่อที่หัวจ่าย เช่นเราเห็นว่าปัมแรกที่เราเติมน้ำมัน regular หัวจ่ายเป็นสีแดง แต่บางปั้มมันเป็นสีเขียวก็ได้
อย่างตอนที่ไปเติมที่ปั้ม shell ที่ Biei  เฒ่าคิวทูรบอกว่า regular  พนักงานหยิบหัวจ่ายสีเขียวเติมให้
เฒ่าคิวทูรบอกว่า ว่าเอาแบบธรรมดาๆ Regular /Red  พนักงานก็ ชี้ ที่หัวจ่าย ว่า นี่ไง อ่านว่า regular.....หน้าแตกเลย

3. ในปั้มที่มีคนบริการ เขาช้คนเช็ดกระจก 2 คน เช็ดในแต่ละข้าง ไม่ได้เช็ดกระจกหน้าอย่างเดียวนะ เช็ดกระจกหูช้าง และกระจกข้างประตูหน้าทั้งสองด้วยละ

ติดตามตอนต่อไปว่า สามเฒ่าการวางแผนเที่ยว Tokyo-Hokkaido 13 วันคนละ 46,000 บาท ว่าทำกันอย่างไร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น